ไคโตซานจากเปลือกกุ้ง
บทที่1
บทนำ
ตอนที่ 2 การเคลือบผิวมะนาวด้วยไคโตซาน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
บทที่ 2เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ไคติน และไคโตซาน
ที่มาและความสำคัญ
ในแต่ละปีประเทศไทยมีการส่งออก นำเข้าและบริโภคกุ้ง ปูและปลาหมึกเป็นจำนวนมากซึ่งจากสถิติในช่วงปี พ.ศ. 2536 -2543 พบว่าประเทศไทยมีปริมาณมวลรวมของการส่งออกนำเข้า และบริโภคในประเทศสำหรับกุ้ง ปู และปลาหมึก ประมาณ 57000 และ 190000 ตันต่อปี ตามลำดับ ซึ่งปริมาณเหล่านี้จะเป็นดัชนีแสดงถึงปริมาณเหล่านี้จะเป็นดัชนีแสดงถึงปริมาณกากของเหลือที่เกิดขึ้นจะมากตามไปด้วยดังนั้นแนวทางหนึ่งในการแปรรูปกากของเหลือเหล่านี้ให้มีมูลค่าสูงขึ้น คือ การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ไคตินและไคโตซาน
จากการศึกษาข้อมูลพบว่า ในชุมชนของเรานิยมรับประทานกุ้งกุลาดำเป็นส่วนใหญ่เพราะหาได้ง่าย และมีราคาถูกส่วนเปลือกกุ้งที่เหลือจากการรับประทานนั้น ถูกมองว่าเป็นเศษอาหารที่ไร้ค่าเพราะไม่มีใครนำมันมาใช้ประโยชน์
จากการที่เราได้ศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับสารไคติน ทำให้เรารู้ว่าสารไคตินมีมากในเปลือกของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น กุ้ง ปู รวมทั้งแมลงต่างๆ และสารไคตินนั้นยังมีประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ ด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม เป็นต้น จากคำกล่าวข้างต้น ทำให้เราเกิดความคิดขึ้นว่า “มีวิธีการที่จะทำสารไคตินที่อยู่ในเปลือกกุ้งนี้ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร”
จากการที่เราได้รับการศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับสารไคติน และได้อ่านงานวิจัยของศาสตราจารย์ จากมหาวิทยาลัยต่างๆเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากสารไคติน ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตรกรรม ด้านการแพทย์ ด้านอุตสาหกรรม ตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อีกทั้งคุณครูยังเคยกล่าวถึงโครงงานเกี่ยวกับสารไคตินที่สกัดจากเปลือกแมลงสาบ เพื่อเคลือบผิวผลไม้ กลุ่มของเรามีความเห็นตรงกันว่า โครงงานนี้น่าสนใจเป็นอย่างมาก จึงเป็นแรงผลักดันให้สมาชิกในกลุ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสารไคตินนี้มากขึ้น ผลปรากฏว่า สารไคตินนั้นยังสามารถสกัดได้จากเปลือกของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น กุ้ง ปู รวมทั้งแมลงปีกแข็งชนิดต่างๆได้อีกด้วย พอกลับมามองที่ชุมชนของเรา ซึ่งนิยมรับประทานกุ้งกุลาดำเป็นส่วนใหญ่ เพราะ หาได้ง่าย และมีราคาถูก ส่วนเปลือกกุ้งที่เหลือจากการรับประทานนั้น ก็กลายเป็นเศษอาหารที่ไร้ค่า เนื่องจากไม่มีใครนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ กลุ่มของเราจึงนำความรู้ที่ได้มานั้นมาใช้ โดยเราจะสกัดสารไคตินนี้จากเปลือกกุ้งกุลาดำ แล้วนำมาเคลือบผิวของมะนาว (สาเหตุที่เลือกมะนาวเพราะ มะนาวเป็นผลไม้ที่มีขนาดเล็ก และผู้คนนิยมบริโภคเป็นส่วนมาก)
วัตถุประสงค์
1.เพื่อสกัดสารไคตินจากเปลือกกุ้งกุลาดำ
2.เพื่อศึกษาหาอัตราส่วนโดยน้ำหนักของ ไคติน ต่อ NaOH50 % ที่ดีที่สุดในเปลี่ยนสาร
ไคตินให้เป็นสารไคโตซาน
3.เพื่อศึกษาหาอัตราส่วนโดยน้ำหนักของไคโตซาน ต่อ สารละลายกรดแอซิติก ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการเคลือบผิวมะนาว
สมมติฐาน
1.อัตราส่วนโดยน้ำหนักของไคติน ต่อ NaOH50 % เป็น 1:90 จะได้สารไคโตซานที่มีปริมาณมากที่สุด
2.อัตราส่วนโดยน้ำหนักของไคโตซาน ต่อ สารละลายกรดแอซิติกเป็น 1:90 จะมีประสิทธิภาพในเคลือบผิวมะนาวและเก็บรักษาผลมะนาวหลังเก็บเกี่ยวได้นานที่สุด
ขอบเขตการศึกษา
ตอนที่ 1 การผลิตไคโตซาน
ตัวแปรต้น : อัตราส่วนโดยน้ำหนักของไคติน ต่อ โซเดียมไฮดรอกไซด์ 50 % มีดังนี้
1. 1:90
2. 1:120
3. 1:150
ตัวแปรตาม : ปริมาณไคโตซานที่ได้จากการผลิต
ตัวแปรควบคุม :
1.ความเข้มข้นของกรดไฮโดรคลอริก,โซเดียมไฮดรอกไซด์ที่ใช้ในการผลิตไคติน
2.อุณหภูมิ
3.ระยะเวลา
4.ชนิดของกุ้ง
ตอนที่ 2 การเคลือบผิวมะนาวด้วยไคโตซาน
ตัวแปรต้น : อัตราส่วนโดยน้ำหนักของไคโตซาน ต่อสารละลายกรดแอซิติก มีดังนี้
1. 1:90
2. 1:120
3. 1:150
ตัวแปรตาม : ระยะเวลาในการเก็บรักษาผลมะนาว
ตัวแปรควบคุม :
1.อุณหภูมิ
2.ชนิดของผลไม้(มะนาว)
3.ความเข้มข้นของสารละลายกรดแอซิติก
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้ทราบกระบวนการในการสกัดสารไคตินจากเปลือกกุ้ง
2.ได้อัตราส่วนโดยน้ำหนักของไคติน ต่อ NaOH ที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนไคตินให้เป็นไคโตซาน
3.ได้ทราบอัตราส่วนโดยน้ำหนักของไคโตซานต่อสารละลายกรดแอซิติก ที่เหมาะสมที่สุดในการเคลือบผิวมะนาวและเก็บรักษาผลมะนาวหลังเก็บเกี่ยวได้นานที่สุด
ระยะเวลาทำโครงงาน
โครงงานนี้มีระยะเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่ ตุลาคม 2552 – พฤศจิกายน 2552
สถานที่ที่ใช้ในการทำโครงงาน
ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการเคมี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนสกลราชวิยานุกูล
นิยามศัพท์เฉพาะ
-ไคติน คือ โพลิเมอร์ธรรมชาติ โดยพบเป็นองค์ประกอบของเปลือกแข็งที่หุ้มเซลล์ของรา ยีสต์ และจุลินทรีย์หลายชนิด หรือ พบเป็นโครงสร้างแข็งของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น กุ้ง ปู และแมลงทุกชนิด ซึ่งโครงงานนี้จะสกัดสารไคตินจากเปลือกกุ้งกุลาดำ
-ไคโตซาน คือ อนุพันธ์ของไคตินที่ตัดเอาหมู่อะซิทิล ของน้ำตาล N-acetyl-D-glucosamine ออกตั้งแต่ 50% ขึ้นไป และมีสมบัติในการละลายในกรดอ่อน
บทที่ 2เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ไคติน และไคโตซาน
ไคโตซาน เป็นสารอนุพันธ์ที่ไม่ละลายน้ำของไคติน ซึ่งสามารถสกัดได้จากเปลือกของกุ้งขนาดกลางและเล็ก กุ้งกร้ามกราม หรือปู มีการวิจัยทางคลินิกวิทยามากว่า 17 ปี ถึงการใช้ไคโตซานเป็นสารลดน้ำหนักธรรมชาติโดยใช้เป็นใยอาหาร(ไฟเบอร์) เพื่อทำให้อืดอิ่ม และใช้ในการทำความสะอาดสำไส้ เรื่อยจนมาถึงปัจจุบัน ไคโตซานมีคุณสมบัติในสมบัติในการดูดซับน้ำมัน คราบไขมันและสารพิษบางชนิด เพื่อทำให้กำจัดได้ง่ายขึ้น ไคโตซานถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอาง รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การทดลองของฮาน (Han L. K.) และเพื่อนร่วมงานของเขา (1999) ที่โรงเรียนการแพทย์ในประเทศญี่ปุ่นชี้ให้เห็นว่า ไคโตซานป้องกันการเพิ่มของน้ำหนักตัว ป้องกันภาวะไขมันในเลือดสูง และการมีไขมันสะสมในตับมากอันเนื่องมาจากการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง มีการทดลองที่ทำการเปรียบเทียบการขับไขมันออกจากร่างกาย และคุณสมบัติในการลดน้ำหนักของใยอาหารจากพืชผักหลากหลายชนิดกับไคโตซาน ผลปรากฎว่าไคโตซานให้ผลดีเหนือกว่าใยอาหารอื่นทั้งหมด ไม่เพียงใช้ในอุตสาหกกรมอาหารไคโตซานยังใช้เป็นไหมเย็บบาดแผลและเส้นเลือดที่ขาด นักวิทยาศาสตร์บางท่านได้จัดให้ไคโตซานเป็นหนึ่งในกลุ่มอาหารเพื่อหน้าที่ หรือที่รู้จักกันว่า ฟังก์ชันนอล ฟูด
ไคโตซาน เป็นไบโอโพลิเมอร์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญในรูปของ D – glucosamine สามารถพบเจอได้จากธรรมชาติ ซึ่งเป็นองค์ประกอบอยู่ในเปลือกนอกของสัตว์พวก กุ้ง ปู แมลง และเชื้อรา และ เป็นสารธรรมชาติที่ มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว คือเป็นวัสดุชีวภาพ ( Biometerials ) สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ ซึ่งมีความปลอดภัยในการนำมาใช้กับมนุษย์โดยไม่เกิดผลเสียและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เกิดอาการแพ้ ไม่เป็นวัตถุไวไฟและไม่เป็นพิษ ( non– phytotoxic ) ต่อพืช นอกจากนี้ยังส่งเสริมการเพิ่มปริมาณของสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อพืชและสัตว์
จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ชั้น Crustacea อันดับ Decapoda มีด้วยกันหลายวงศ์ กุ้งเป็นสัตว์น้ำ หายใจด้วยเหงือก ลำตัวยาว แบนหรือกลม แบ่งเป็นปล้องๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุมมาถึงอกปล้องที่ 8 ส่วนใหญ่กรีมีลักษณะแบนข้าง ก้ามและขาอยู่ที่ส่วนหัวและอก มี 10 ขา มีทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม โดยปกติชอบหลบซ่อนตัวอยูเงียบ ๆ ตามพื้นน้ำหรือในวอกมือด ๆ จะออกหากินในเวลากลางคืน กุ้งกินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร เช่น กิน กุ้งด้วยกันเอง ลูกปลา ไส้เดือน สัตว์หน้าดินขนาดเล็กชนิดต่าง ๆ ข้าว เนื้อมะพร้าวตลอดจนซากสัตว์ สามารถแบ่งออกได้หลายชนิด เช่น กุ้งกุลาดำ กุ้งก้ามกราม กุ้งนาง กุ้งหลวง กุ้งก้ามเกลี้ยง กุ้งตะกาด กุ้งตะเข็บ กุ้งฝอย กุ้งหัวแข็ง กุ้งหัวโขน กุ้งขาว กุ้งรู กุ้งหิน กุ้งดีดขัน กุ้งแชบ๊วย กุ้งเครย์ฟิช
กุ้ง
จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ชั้น Crustacea อันดับ Decapoda มีด้วยกันหลายวงศ์ กุ้งเป็นสัตว์น้ำ หายใจด้วยเหงือก ลำตัวยาว แบนหรือกลม แบ่งเป็นปล้องๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุมมาถึงอกปล้องที่ 8 ส่วนใหญ่กรีมีลักษณะแบนข้าง ก้ามและขาอยู่ที่ส่วนหัวและอก มี 10 ขา มีทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม โดยปกติชอบหลบซ่อนตัวอยูเงียบ ๆ ตามพื้นน้ำหรือในวอกมือด ๆ จะออกหากินในเวลากลางคืน กุ้งกินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร เช่น กิน กุ้งด้วยกันเอง ลูกปลา ไส้เดือน สัตว์หน้าดินขนาดเล็กชนิดต่าง ๆ ข้าว เนื้อมะพร้าวตลอดจนซากสัตว์ สามารถแบ่งออกได้หลายชนิด เช่น กุ้งกุลาดำ กุ้งก้ามกราม กุ้งนาง กุ้งหลวง กุ้งก้ามเกลี้ยง กุ้งตะกาด กุ้งตะเข็บ กุ้งฝอย กุ้งหัวแข็ง กุ้งหัวโขน กุ้งขาว กุ้งรู กุ้งหิน กุ้งดีดขัน กุ้งแชบ๊วย กุ้งเครย์ฟิช
บทที่ 3
วิธีการดำเนินการทดลองวัสดุอุปกรณ์และสารเคมี
1.กระดาษกรอง
2.เทอร์มอมิเตอร์
3.บีกเกอร์ขนาด 50 , 100 และ 250 มิลลิลิตร
4.ปิเปต
5.หลอดหยด
6.Hot plate
7.เครื่องคนแม่เหล็ก
8.เครื่องชั่ง 2 ตำแหน่ง
9.เตาอบ(Oven)
10.กรวยกรอง
11.NaOH 2 M
12.HCl 2 M
13.NaOH 50%
14.ผลมะนาว
15.สารละลายกรดแอซิติก
16. เหล็กคีบ
17.ผ้าเช็ด
18.เปลือกกุ้ง
19.แท่งแก้วคนสาร
20.ขวดรูปชมพู่
21.สารส้ม
22.น้ำกลั่น
วิธีการทดลอง แบ่งออกได้เป็น 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 การผลิตไคโตซาน
การสกัดสารไคติน
1.การเตรียมวัตถุดิบ
นำเปลือกกุ้งกุลาดำ มาแยกเอาส่วนเนื้อ ไขมัน และขากุ้งออก แล้วนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้ง จากนั้นนำไปตากแดดไว้จนแห้ง
2.การกำจัดแร่ธาตุ
นำเปลือกกุ้งที่ตากไว้จนแห้ง มาแยกแร่ธาตุ (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกลือแคลเซียมคาร์บอเนต) ด้วยกรดไฮโดรคลอริก ความเข้มข้น 2 M ปริมาณ 100 มิลลิลิตร คนตลอดเวลา 2 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิห้อง(30±2 องศาเซลเซียส) โดยใช้เครื่อง Stirring Hot Plate หลังจากนั้น ล้างน้ำให้สะอาด แล้วจึงกรองด้วยกระดาษกรองเพื่อเอากากที่ติดอยู่บนผิวของกระดาษกรอง
3.การกำจัดโปรตีน
นำกากของเปลือกกุ้งที่ได้จากการแยกแร่ธาตุ มากำจัดโปรตีนด้วยสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ที่มีความเข้มข้น 2 M ปริมาณ 100 มิลลิลิตร คนตลอดเวลา 2 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
หลังจากนั้น ล้างน้ำให้สะอาดแล้วกรองด้วยกระดาษกรอง จะได้สารไคตินอยู่บนผิวของกระดาษกรอง
4.การกำจัดสี
นำสารไคตินที่ได้มากำจัดสีออก โดยใช้เอทานอล 95% เทกรองผ่านกระดาษกรองและกรวยกรอง
จนกว่าสีใกล้จะหมด แล้วนำไปอบจนแห้ง จากนั้นนำไปเปรียบเทียบร้อยละกับสารตั้งต้น
การเตรียมสารไคโตซาน
นำสารไคตินที่ได้มากำจัดหมู่อะซิทิล ด้วยสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ 50% โดยใช้อัตราส่วนโดยน้ำหนัก ของสารไคติน ต่อ โซเดียมไฮดรอกไซด์ 50%เป็น 1:90, 1:120 และ 1:150
จากนั้นคนตลอดเวลา 2 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 140±10 องศาเซลเซียส ด้วยเครื่อง Stirring Hot Plate
หลังจากนั้นนำไคโตซานที่ได้ไปล้างน้ำ แล้วกรองจนหมดด่าง ขั้นตอนสุดท้ายนำไปอบจนแห้ง
จากนั้นนำไปเปรียบเทียบร้อยละกับสารไคตินตั้งต้น และเปรียบเทียบร้อยละจากปริมาณเปลือกกุ้งข้างต้น
ขั้นตอนที่ 2 การเคลือบผิวมะนาวด้วยสารละลายไคโตซาน
1.เตรียมสารละลาย ไค โตซานกับสารละลายกรดแอซิติก โดยใช้อัตราส่วนโดยน้ำหนักที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. 1 : 90
2. 1 : 120
3. 1 : 150
2.นำผลมะนาวไปล้างให้สะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งแล้วจุ่มลงในสารละลายที่เตรียมไว้ เป็นเวลา 3 นาที
3.นำไปผึ่งไว้จนแห้ง
4.เก็บมะนาวไว้ที่อุณหภูมิห้อง สังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับมะนาวทั้ง 4ลูก
5.บันทึกผลการทดลองทุกๆ 2 วัน
ประโยชน์
ไคโตซานจากเปลือกกุ้งซึ่งนำไปใช้ในกระบวนการเคลือบผิวมะนาว เพื่อให้มีผลสดนานกว่าปกติ ซึ่งปลอดภัยกว่าใช้สารเคมีในการเคลือบ และต้นทุนในการผลิตถูกกว่าการใช้สารเคมี
สามารถผลิตเองได้ นั่นก็เป็นผลดีต่อเกษตรกรที่ค้าขายมะนาวและผู้บริโภคอีกด้วย
สามารถผลิตเองได้ นั่นก็เป็นผลดีต่อเกษตรกรที่ค้าขายมะนาวและผู้บริโภคอีกด้วย
แหล่งที่มา
ดาวน์โหลดแบบจำลอง 3 มิติ (HTML5)
สามรถเปิดดูแบบจำลอง 3 มิติ นี้ได้โดยการเปิดผ่าน Browser ที่รับรอง HTML5 และ 3D
เช่น FireFox ...
เปิดไฟล์ 3DLoader.html เพื่อดูแบบจำลอง 3 มิติ
................................................................
ผู้จัดทำโครงงาน
The TurTer
1)นางสาวกนกกร ห่อแก้ว ห้องม.504 เลขที่1
2)นางสาววิชญา ภักดีพันธ์ ห้องม.504 เลขที่11
3)นายคณากาต์ รอบการ ห้อง ม.504 เลขที่ 17
อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยาศาสตร์ :อ.กัลยา รอดผล
อาจารย์ที่ปรึกษาคอมพิวเตอร์ : อ.จิรัฎฐ์ พงษ์ทองเมือง
โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช
Princess Chulabhorn's College,Nakhon Si Thammarat
(Chulabhorn Science High School)
Harrah's Cherokee Casino & Hotel - Mapyro
ตอบลบVegas 시흥 출장마사지 Casino Hotel, Cherokee · Harrah's Cherokee Casino 충주 출장샵 Hotel 충청북도 출장마사지 & Racetrack · Caesars Palace Casino · Harrah's 동해 출장샵 Cherokee Casino Hotel · Cherokee 문경 출장안마 Casino